พอเดินไปตามทางที่แผนที่บอก สิ่งที่รอคอยพวกริคุโอะอยู่ก็คือโทริอินับร้อยที่เรียงรายสลอนราวกับเขาวงกตที่ทอดตัวไปกับแนวบันไดขึ้นเขาแม้แต่อาวาชิมะและกลุ่มปีศาจโทโนะเห็นแล้วก็ยังอดรู้สึกทึ่งไม่ได้
“นี่…นี่ไม่ใช่นะ! นี่คนละคนกันพี่ริวจิ!!”
ว่าแล้วยูระก็รีบกระโดดเข้ามาขวางพี่ชายของตนกับซึราระ พลางกระซิบอย่างฉุนเฉียว
“เธอ!? ทำอะไรอยู่เนี่ย!? ออกมาทำไม หา ปีศาจหิมะ!?”
“ก็ตอนเดินผ่านได้ยินเข้าพอดีนี่นา”
“ขืนให้รู้ว่าพาปีศาจเข้าบ้านเคย์คะอิน ฉันก็ถูกไล่ออกพอดีสิ!!”
ตอนนั้นเองที่ฮิเดโมโตะ เจ้าบ้านคนที่13 ซึ่งตอนนี้อยู่ในฐานะชิคิงามิของยูระเดินเข้ามาใกล้ถามว่าซึราระเป็นใคร ซึราระจึงตอบว่าเป็นคนของกลุ่มนูระ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากกว่านั้น ยูระก็รีบพาซึราระ และฮิเดโมโตะออกไปจากห้องนั้นทันที ทิ้งให้ริวจิมองตามอย่างสงสัยอยู่เบื้องหลัง
และที่ซึ่งยูระพามา ก็คือ(อดีต)ห้องนอนของเธอเอง ที่เปลี่ยนสภาพกลายเป็นห้องเก็บของถูกพี่ชายคนอื่นเอาหนังสือของตนมาสุมไว้จนเต็มพอมาอยู่กันแค่สามคนแล้ว ฮิเดโมโตะจึงถามว่าซึราระเป็นปีศาจใช่ไหม
ซึราระได้ทีจึงรีบอธิบายสิ่งที่ตนพูดค้างไว้
“ท่านริคุโอะควรจะมาใช่ไหมคะ!? เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงค่ะ!! ถ้าการฝึกจบแล้ว ท่านริคุโอะต้องรีบมาแน่!!”
ฮิเดโมโตะฟังแล้วจึงยิ้มออกมาแล้วบอกว่า
“ก็ไม่ผิดนักหรอก ทั้งดาบเนเนะคิริมารุก็จำเป็น อีกอย่าง เมื่อ400ปีก่อน คนที่จัดการฮาโกโรโมะลงได้ ที่จริงก็คือนูราริเฮียงด้วยนี่นะ…”
ยูระตกใจที่ฮิเดโมโตะพูดเช่นนั้น จึงหันไปมองอดีตเจ้าบ้านผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะ ซึ่งขณะนั้นกำลังถามซึราระ ว่าเป็นลูกสาวหรือหลานสาวของเซ็ตซึระ ปีศาจหิมะรุ่นก่อนซึราระตกใจที่ฮิเดโมโตะรู้จักชื่อของเซ็ตซึระด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้บอกว่าตกลงตัวเองเป็นลูกหรือหลานเซ็ตซึระกันแน่
“ว่าแต่ ซึราระจัง เธอบอกว่าหัวหน้าของเธอกำลังฝึกวิชาอยู่ใช่ไหม แล้วเค้าแข็งแกร่งรึเปล่า? ฮาโกโรโมะกิตซึเนะน่ะ แข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่เกิดใหม่ ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังเชื่อว่า “เขา” จะมางั้นหรือ?”
ซึราระนิ่งไปอึดใจ ก่อนจะพูดพลางหันไปมองยูระพร้อมรอยยิ้ม
“ท่านริคุโอะเคยบอกเอาไว้ค่ะ…. ‘ฉันน่ะ ไม่ยกโทษให้ปีศาจที่ก่อความเดือดร้อนให้มนุษย์แน่’ ”
ท่านริคุโอะน่ะ…อาจจะแปลกไปสักหน่อย ศัตรูก็อาจจะมีมาก แต่ก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เชื่อมั่นและก้าวเดินไปบนหนทางที่สร้างด้วยกำลังของตัวเองตลอดมา ดังนั้นฉันจึงเชื่อมั่นมาตลอดค่ะ”
ผู้ที่ได้ยินคำพูดนี้ของซึราระ นอกจากฮิเดโมโตะและยูระแล้ว นอกห้อง ยังมีริวจิยืนอยู่ด้วย…
“อย่างนั้นเอง…ถ้าเป็นคนอย่างนั้นล่ะก็ พอมาถึงคงต้องบอกให้รู้ไว้แล้วล่ะ เรื่องของผนึก”
ฮิเดโมโตะเปิดม่าน ทำให้เห็นทัศนียภาพอันน่าประหวั่นพรั่นพึงด้านนอกกระจก เมื่อไอจำนวนมหาศาลม้วนตัวขึ้นจากบรรดาผนึกที่ถูกทำลาย ลอยไปถึงท้องฟ้า ดูราวพายุหมุนอันดำมืด
“ยูระจัง เห็นแล้วใช่ไหม นั่นคือเสาที่เกิดจากความเคียดแค้นในเกียวโตมารวมตัวกัน”
และนั่นก็คือแหล่งพลังของปีศาจเกียวโตนั่นเอง…
อามาโนะจาคุอย่างอาวาชิมะนั้น เวลากลางวันเป็นชาย แต่กลางคืนจะกลายร่างเป็นหญิงสำหรับอาวาชิมะ เจ้าตัวบอกว่า เดิมทีตัวเองเป็นชาย เพราะอย่างนั้นจึงเข้าห้องน้ำชายเหมือนกับริคุโอะ (ก่อนหน้านี้ก็อาบน้ำบ่อเดียวกันมาแล้ว)
หลังจากดูแผนที่ภายในศาลเจ้า เนื่องจากมีทางเดินเป็นจำนวนมาก กลุ่มนูระจึงตัดสินใจแบ่งกลุ่มแยกกันเดินสำรวจ โดยริคุโอะบอกว่าจะไปดูเสาหน้าตาประหลาดที่ไม่รู้ว่าเกิดจากไอปีศาจหรืออะไรก่อน
ระหว่างนั้น อาวาชิมะก็หันไปเห็นหินที่มีป้ายบอกชื่อว่า “โอโมคารุ” ตั้งอยู่ใกล้ๆ ตามป้ายบอกว่า ให้อธิษฐาน ก่อนแล้วจึงลองยก ถ้าหากรู้สึกว่าหินเบากว่าที่คิดไว้ ก็แปลว่าคำอธิษฐานจะเป็นจริง แต่ถ้าหนักกว่า ก็แปลว่าจะไม่เป็นจริง อาวาชิมะก็เลยลองยกและก็พบว่าหินนั้นหนักจนน่าแปลกใจ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะถูกเรียกเสียก่อน
ริคุโอะกับคนอื่นๆ เห็นอาวาชิมะมัวแต่โอ้เอ้ จึงบอกให้รีบมา ไม่งั้นจะทิ้งไว้อาวาชิมะที่กำลังพะว้าพะวงหันไปมองริคุโอะที่เดินขึ้นไปก่อน แล้วก็หันไปมองกลุ่มนูระอีกกลุ่มที่เดินตามขึ้นมา แล้วก็ตัดใจทิ้งเด็กน้อยไปไม่ได้จึงเดินขึ้นบันไดต่อ โดยมีเด็กชายเดินตามมาด้วย
เด็กชายร้องไห้ พูดออกมาเสียงอู้อี้ จนอาวาชิมะชักหงุดหงิด จึงหันไปหมายจะเรียกใครมาดูแลเด็กแทนตนที แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่อยู่ข้างหน้า กลับเหลือริคุโอะแค่คนเดียว คนอื่นๆกลับหายตัวไปหมด พอหันไปเบื้องหลัง ก็ไม่มีใครเดินตามมาเช่นกัน
“เฮ้ย…?”
อาวาชิมะงุนงงว่าทุกคนหายไปไหนกันหมด จึงรีบยื่นมือไปคว้าไหล่ริคุโอะเอาไว้
“ฮ…เฮ้ ริคุโอะ ทุกคนไปไหนกันหมด”
“เฮ้…เจ้าเด็กนี่!! มันมีอะไรแปลกๆนะ!! เนี่ย ริคุโอะดูสิ!!”
แต่เมื่อหันไปอีกครั้ง แค่ในชั่วพริบตา ริคุโอะก็หายไปแล้ว อาวาชิมะที่เสียศูนย์ ถึงกับล้มลงไปกับพื้น
อีกมุมหนึ่ง….อะไรบางอย่างกำลังเฝ้ามองอาวาชิมะ และพึมพำไปด้วย
“เข้าไปแล้ว…ป่าของโทริอิหนึ่งพันต้น….”
และที่กำลังเฝ้ามองอยู่ ก็คือรูปปั้นพันมือ ที่ส่งเสียงแซ่กๆ อย่างน่าสยดสยอง….
Filed under: Nurarihyon no Mago | Tagged: Boom,Nurarihyon no Mago,ShonenJump |
ใส่ความเห็น